Land of Mine (2015) ดินแดนกับระเบิด
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : Land of Mine (2015) ดินแดนกับระเบิด
ดูหนัง Land of Mine (2015)
รีวิวและสปอย
Land of Mine หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดินแดนกับระเบิด” เป็นภาพยนตร์สงครามที่สร้างจากเรื่องจริงในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องราวเกิดขึ้นในประเทศเดนมาร์ก โดยเล่าถึงกลุ่มเด็กชายชาวเยอรมันที่ถูกบังคับให้ทำงานเก็บระเบิดที่ถูกฝังอยู่ในดินหลังจากสงครามสิ้นสุดลง ภาพยนตร์นี้กำกับโดย Martin Zandvliet และนำแสดงโดย Louis Hofmann, Roland Møller, และ Mikkel Boe Følsgaard
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อกลุ่มทหารเยอรมันถูกจับหลังสงคราม และถูกส่งไปยังชายหาดในเดนมาร์ก เพื่อทำงานเก็บระเบิดที่ถูกฝังไว้ในดิน ซึ่งเป็นงานที่อันตรายมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กชายที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานนี้ ภาพยนตร์จะนำเสนอความตึงเครียด ความหวาดกลัว และความไม่แน่นอนที่พวกเขาต้องเผชิญ รวมถึงการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจและความเปราะบางของมนุษย์
การเล่าเรื่องของ Land of Mine เน้นย้ำถึงความซับซ้อนของสงคราม และความยากลำบากที่ผู้คนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ หนังยังได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความเกลียดชังและความเห็นอกเห็นใจ และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่มีพื้นฐานมาจากความเจ็บปวดและการสูญเสีย
ในช่วงกลางของภาพยนตร์ ผู้ชมจะได้เห็นความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นระหว่างเด็กชายและทหารที่ดูแลพวกเขา ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับการให้อภัยและการยอมรับความผิดพลาดในอดีต นอกจากนี้ หนังยังมีการใช้ภาพที่สวยงาม ในขณะที่สะท้อนถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความไม่แน่นอน
นักแสดงในเรื่อง
Land of Mine มีนักแสดงหลักที่มีความสามารถ ได้แก่:
– Louis Hofmann รับบทเป็น “Sebastian”
– Roland Møller รับบทเป็น “Sgt. Carl Rasmussen”
– Mikkel Boe Følsgaard รับบทเป็น “Lars”
– Laura Bro รับบทเป็น “Ingrid”
– Julius Grosse รับบทเป็น “Günther”
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDb ของ Land of Mine คือ 7.8/10 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและความชื่นชมจากผู้ชม นอกจากนี้ คะแนนจาก Rotten Tomatoes ก็มีความน่าพอใจ โดยมีคะแนน 92% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์
สรุป
Land of Mine เป็นภาพยนตร์ที่มีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์ สามารถสร้างความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของมนุษย์ในช่วงเวลาแห่งสงคราม แม้ว่าจะมีพื้นฐานมาจากเรื่องจริง แต่หนังกลับสามารถนำเสนอความเป็นมนุษย์ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและการเล่าเรื่องที่มีความหมาย ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายที่ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบาก แต่ยังสะท้อนถึงความเห็นอกเห็นใจและการให้อภัยที่สามารถเกิดขึ้นได้แม้อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด