Jason Bourne เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย (2016)
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : Jason Bourne เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย (2016)
ดูหนัง Jason Bourne เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย (2016)
บทนำ
“เจสัน บอร์น” (Jason Bourne) คือภาพยนตร์ที่สานต่อเรื่องราวของยอดจารชนที่เราเคยรู้จักกันในหลายภาคที่ผ่านมา โดยในภาคนี้เราจะได้เห็นการกลับมาของ แมตต์ เดมอน ที่รับบทเป็นเจสัน บอร์นอีกครั้ง ภาพยนตร์นี้ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของแฟรนไชส์ที่โด่งดัง โดยเฉพาะในด้านแอ็คชั่นและการเล่าเรื่องที่เข้มข้น
นักแสดง
ใน “เจสัน บอร์น” (2016) เราจะได้พบกับนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น:
- แมตต์ เดมอน รับบทเป็น เจสัน บอร์น
- อลิซาเบธ โอลเซน รับบทเป็น นีลี่
- ทอมมี่ ลี โจนส์ รับบทเป็น นาธานล์ ครอส
- วีลเลียม แบ็กเกอร์ รับบทเป็น แฮร์รี่
- จูเลีย สตายลส์ รับบทเป็น นิกกี้ พาร์ค
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDb ของ “เจสัน บอร์น” (2016) อยู่ที่ 6.6/10 ซึ่งเป็นคะแนนที่ดูเหมือนจะสะท้อนความนิยมของแฟนหนัง แต่ไม่ถึงกับเป็นที่พอใจในสายตาของนักวิจารณ์ ขณะที่คะแนนใน Rotten Tomatoes อยู่ที่ 56% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างผสมผสาน
สปอยล์และสรุปเนื้อเรื่อง
“เจสัน บอร์น” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อจากภาคก่อนที่เล่าเรื่องถึงชีวิตของเจสัน บอร์น ที่พยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของตัวเอง ในภาคนี้ เขาได้กลับมาที่โลกของการต่อสู้และการลอบสังหารอีกครั้ง เนื้อเรื่องเริ่มต้นเมื่อ บอร์น เริ่มได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการทดลองที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Treadstone และอดีตของเขาที่เขาพยายามจะลืมไป
ในระหว่างการค้นหาความจริง บอร์น พบว่าตนเองต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่มีอำนาจและต้องการจะควบคุมเขา รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลที่ต้องการจะกำจัดเขาเพื่อไม่ให้เขาเผยแพร่ความลับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้
ความตึงเครียดในภาพยนตร์ถูกเน้นด้วยฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น เช่น การไล่ล่าในเมืองต่างๆ และการต่อสู้ที่ใช้เทคนิคที่หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนๆ ของแฟรนไชส์นี้รู้สึกตื่นเต้น
นอกจากนี้ยังมีการเจาะลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง บอร์น และ นิกกี้ พาร์ค (จูเลีย สตายลส์) ที่มีความซับซ้อนและมีอารมณ์ร่วมที่เข้มข้น ในขณะที่เขาพยายามจะปกป้องคนที่เขารักจากความเสี่ยงต่างๆ
บทสรุป
โดยรวมแล้ว “เจสัน บอร์น” (2016) เป็นภาพยนตร์ที่มีการสร้างสรรค์อย่างดี โดยมีการนำเสนอความตึงเครียดและแอ็คชั่นที่น่าติดตาม แม้ว่าคะแนนจากนักวิจารณ์จะไม่สูงมากนัก แต่สำหรับแฟนๆ ของแฟรนไชส์นี้ ภาพยนตร์นี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การรับชม การกลับมาของแมตต์ เดมอนในบทบาทนี้ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครอีกครั้ง และความพยายามในการค้นหาความจริงที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น