James Bond 007 ภาค 16 Licence to Kill 007 รหัสสังหาร (1989)
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : James Bond 007 ภาค 16 Licence to Kill 007 รหัสสังหาร (1989)
ดูหนัง Licence to Kill 007 รหัสสังหาร
รีวิวและสปอย
Licence to Kill หรือในชื่อไทยว่า รหัสสังหาร เป็นภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์ 007 ที่ออกฉายในปี 1989 โดยมี ทิมอธี ไดล์ รับบทเป็นเจมส์ บอนด์ ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งที่สองของเขาในบทนี้ หลังจาก The Living Daylights ในปี 1987 ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความแตกต่างจากภาคก่อน ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การล้างแค้นส่วนบุคคลมากกว่าการปฏิบัติภารกิจจากทางการของอังกฤษ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อบอนด์ได้รับมอบหมายให้ดูแลการคุ้มครอง เฟลิกซ์ ไลเตอร์ (รับบทโดย เจฟฟ์ ไดเจน) ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา แต่เมื่อเฟลิกซ์ถูกจับโดย ดอน วิทเกอร์ (รับบทโดย โรเบิร์ต ดาร์วิน) นักค้ายาเสพติดที่โหดเหี้ยม บอนด์จึงตัดสินใจออกเดินทางเพื่อล้างแค้นและช่วยเหลือเพื่อนของเขา โดยที่เขาต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย รวมถึงการต้องเผชิญหน้ากับ มิเกล (รับบทโดย บิ๊บ ซูซ่า) และทีมของเขา
ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น เช่น การไล่ล่าบนถนนที่มีความเร็วสูง และการต่อสู้ในสถานที่ที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้ชมตื่นเต้นไปกับทุกช่วงเวลา นอกจากนี้ยังมีความโรแมนติกซึ่งเกิดขึ้นระหว่างบอนด์และ ปาเมล่า เบียร์สลีย์ (รับบทโดย คารินา ลิเวอร์พูล) ที่ทำให้เนื้อเรื่องมีมิติและความลึกมากขึ้น
นักแสดงในเรื่อง
- ทิมอธี ไดล์ – เจมส์ บอนด์
- โรเบิร์ต ดาร์วิน – ดอน วิทเกอร์
- เจฟฟ์ ไดเจน – เฟลิกซ์ ไลเตอร์
- คารินา ลิเวอร์พูล – ปาเมล่า เบียร์สลีย์
- บิ๊บ ซูซ่า – มิเกล
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ Licence to Kill ได้รับคะแนน IMDB อยู่ที่ประมาณ 6.6/10 และคะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 79% จากผู้ชม ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ดีและแสดงให้เห็นถึงความนิยมของภาพยนตร์นี้ในหมู่แฟน ๆ เจมส์ บอนด์
สรุป
โดยรวมแล้ว Licence to Kill เป็นภาพยนตร์ที่น่าติดตามและแตกต่างจากภาคอื่น ๆ ในแฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์ การล้างแค้นส่วนตัวของบอนด์ในครั้งนี้ทำให้ผู้ชมได้เห็นด้านที่แตกต่างของตัวละครและความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะมีความรุนแรงและความดิบเถื่อนในเรื่อง แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบอนด์เอาไว้ได้อย่างดี ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากนักแสดงและฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ภาพยนตร์นี้จะยังคงเป็นที่จดจำในหมู่แฟน ๆ ของเจมส์ บอนด์