Grudge Match (2013) แค้นนี้ป๋าต้องชำระ

ตัวเล่นหลัก

ปีที่ฉาย: 2013

Thai NA

6 คุณภาพ : HD

เรื่องย่อ : Grudge Match (2013) แค้นนี้ป๋าต้องชำระ

ดูหนัง Grudge Match (2013) แค้นนี้ป๋าต้องชำระ

รีวิวและสปอย

Grudge Match เป็นภาพยนตร์แนวคอมเมดี้-กีฬา ที่เล่าเรื่องราวของนักมวยชื่อดังสองคนที่มีความแค้นฝังลึกกันมานาน โดยในเรื่องนี้เราได้เห็นการกลับมาของพวกเขาเพื่อสู้กันในสังเวียนอีกครั้ง การแข่งขันที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การชกมวย แต่ยังเป็นการต่อสู้กับความทรงจำและความรู้สึกที่ยังคงอยู่ในใจ

ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยการแนะนำตัวละครหลักสองคนคือ Billy “The Kid” McDonnen (รับบทโดย Robert De Niro) และ Henry “Razor” Sharp (รับบทโดย Sylvester Stallone) ซึ่งในอดีตเคยเป็นคู่แข่งที่ดุเดือดในสังเวียนมวย แต่กลับต้องแยกทางกันด้วยเหตุผลที่ไม่ชัดเจน ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตตามวิถีของตนเองหลังจากเลิกชกมวย แต่เมื่อมีโอกาสที่จะกลับมาชกกันอีกครั้ง ความเกลียดชังที่มีต่อกันก็กลับมาอีกครั้ง

ในระหว่างที่เราได้เห็นการฝึกซ้อมของพวกเขาเพื่อเตรียมตัวสำหรับการชกครั้งนี้ เราได้เห็นมุมมองที่แตกต่างกันในความคิดของพวกเขา โดย Billy มีความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเอง แต่ Henry กลับรู้สึกถึงความสงสัยและความไม่แน่นอนในตัวเขาเอง โดยเฉพาะเมื่อเขาเจอกับ Kim Basinger ที่รับบทเป็น Lights Out แฟนเก่าที่เคยเกี่ยวข้องกับทั้งสองคน

ภาพยนตร์มีความตลกขบขันที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงการย้อนอดีตที่ทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครได้ดีขึ้น แม้ว่าภาพยนตร์จะมีจุดประสงค์ในการสร้างความบันเทิง แต่ก็มีข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการให้อภัยและการเผชิญหน้ากับอดีต

นักแสดงในเรื่อง

Robert De Niro เป็น Billy “The Kid” McDonnen
Sylvester Stallone เป็น Henry “Razor” Sharp
Kim Basinger เป็น Lights Out
Alan Arkin เป็น Dante Slate, Jr.

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

คะแนน IMDB ของ Grudge Match อยู่ที่ 6.4/10 ขณะที่คะแนน Rotten Tomatoes อยู่ที่ 30% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ได้รับความเห็นที่แตกต่างกันจากผู้ชมและนักวิจารณ์

สรุป

โดยรวมแล้ว Grudge Match เป็นภาพยนตร์ที่มีความสนุกสนานและสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม โดยเฉพาะแฟน ๆ ของนักแสดงนำที่มีชื่อเสียงอย่าง Robert De Niro และ Sylvester Stallone แม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ได้รับคำชมอย่างดีเยี่ยมจากนักวิจารณ์ แต่ก็ยังมีจุดเด่นในด้านการแสดงและความสามารถในการสร้างอารมณ์ขันที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละคร

สุดท้ายภาพยนตร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคอมเมดี้และกีฬามวย โดยเฉพาะในบริบทของการต่อสู้กับอดีตและการให้อภัยซึ่งกันและกัน