Dr. Seuss’ The Cat in the Hat (2003) เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : Dr. Seuss’ The Cat in the Hat (2003) เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์
ดูหนัง เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์
รีวิวและสปอย
เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์ (2003) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือเด็กยอดนิยมของ Dr. Seuss ซึ่งเล่าเรื่องราวของเด็กสองคนที่ชื่อว่า แซลลี่ และ นีล ที่ต้องเผชิญหน้ากับการมาเยือนของ แมวที่สวมหมวก ซึ่งมีชื่อว่า “The Cat in the Hat” โดยที่เขาได้เข้ามาทำให้บ้านของพวกเขาวุ่นวายและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยสีสันและลูกเล่นที่น่าสนใจ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนาน ในขณะที่ยังมีข้อความเกี่ยวกับความรับผิดชอบและการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านของเด็กๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความรับผิดชอบและผลกระทบของการกระทำของตนเอง
ในส่วนของการสปอยเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญ เมื่อแมวที่สวมหมวกเข้ามาในบ้าน เขาได้นำสิ่งต่างๆ ที่ไม่คาดคิดเข้ามา รวมถึงเพื่อนสองตัวที่ชื่อว่า “Fish” และ “Thing 1 และ Thing 2” ซึ่งทำให้บ้านของเด็กๆกลายเป็นสถานที่ที่วุ่นวายและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ในที่สุดแมวก็ต้องออกไปจากบ้าน และเด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าความสนุกสนานนั้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบ
นักแสดงในเรื่อง
ในภาพยนตร์ เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์ นักแสดงหลักประกอบด้วย:
– **Mike Myers** รับบทเป็น The Cat in the Hat
– **Dakota Fanning** รับบทเป็น Sally
– **Spencer Breslin** รับบทเป็น Conrad
– **Kelly Preston** รับบทเป็น Joan
– **Alec Baldwin** รับบทเป็น Mr. Humberfloob
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์ ได้รับคะแนนจาก **IMDB** อยู่ที่ 5.6/10 และจาก **Rotten Tomatoes** มีคะแนนอยู่ที่ 9% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ไม่ค่อยดีนักจากนักวิจารณ์ แต่ยังคงมีความนิยมในกลุ่มเด็กๆ และครอบครัว
สรุป
โดยรวมแล้ว เดอะ แคท เหมียวแสบใส่หมวกซ่าส์ (2003) เป็นภาพยนตร์ที่มีความสนุกสนานและเต็มไปด้วยสีสัน แม้ว่าจะมีข้อวิจารณ์ในเรื่องของการสร้างสรรค์และการดำเนินเรื่อง แต่ความน่ารักและความสนุกสนานที่ตัวละครนำเสนอทำให้มันยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กๆ ภาพยนตร์นี้เหมาะสำหรับการดูร่วมกับครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องการความบันเทิงและความสนุกสนานในวันหยุด หรือในช่วงเวลาที่ต้องการความสดใสจากเรื่องราวของ Dr. Seuss ซึ่งมีบทเรียนที่สามารถนำไปสู่การพูดคุยเกี่ยวกับความรับผิดชอบและการทำสิ่งที่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน