The Killing Fields (1984) ทุ่งสังหาร
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : The Killing Fields (1984) ทุ่งสังหาร
ดูหนัง The Killing Fields (1984) ทุ่งสังหาร
รีวิวและสปอย
The Killing Fields เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในกัมพูชาในช่วงการปกครองของพอล พอต ในช่วงปี 1975-1979 เรื่องราวตามติดชีวิตของนักข่าวสองคนคือ Sydney Schanberg (รับบทโดย Sam Waterston) และ Dith Pran (รับบทโดย Haing S. Ngor) ซึ่งทำงานร่วมกันในกัมพูชาในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งทางการเมืองและความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการนำเสนอชีวิตของคนในกัมพูชา ก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้น เมื่อพอล พอต และพรรคเขมรแดงขึ้นมามีอำนาจและกำลังเข้ายึดครองประเทศ เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้นเมื่อ Sydney และ Dith ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Dith ถูกจับและต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในค่ายกักกันของพรรคเขมรแดง
ในขณะที่ Sydney พยายามที่จะช่วย Dith ออกจากสถานการณ์ที่เลวร้าย ภาพยนตร์ยังแสดงถึงความยากลำบากและความกล้าหาญของผู้ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของสงคราม ในที่สุด Dith สามารถหลบหนีออกจากค่ายได้และเดินทางไปยังสถานที่ปลอดภัย แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงที่นั่น เพราะเขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียเพื่อนและครอบครัว
นักแสดงในเรื่อง
- Sam Waterston รับบท Sydney Schanberg
- Haing S. Ngor รับบท Dith Pran
- John Malkovich รับบท Al Rockoff
- Julian Sands รับบท Dr. Timothy R. R. Bhatti
- Spalding Gray รับบทตัวเอง
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB: 7.8/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 91% (Tomatometer), 92% (Audience Score)
สรุป
The Killing Fields เป็นภาพยนตร์ที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และศิลปะการเล่าเรื่อง มันไม่ได้เพียงแค่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม แต่ยังเป็นการสื่อสารถึงมนุษยธรรมและความกล้าหาญของคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายที่เกินกว่าจะจินตนาการได้ ภาพยนตร์นี้ได้รับการยกย่องในด้านการแสดงที่เข้มข้นและการนำเสนอที่สมจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงของ Haing S. Ngor ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความสูญเสียที่เขาต้องเผชิญ
ไม่เพียงแค่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ The Killing Fields ยังเป็นการเตือนใจถึงความสำคัญของการรักษาความทรงจำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความจำเป็นในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ภาพยนตร์นี้จึงเป็นหนึ่งในผลงานที่ควรค่าแก่การรับชมสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องราวของสงครามและผลกระทบที่มีต่อมนุษยชาติ