Maleficent (2014) มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : Maleficent (2014) มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ
ดูหนัง มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ
รีวิวและสปอย
“มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ” (Maleficent) เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีที่นำเสนอเรื่องราวของนางฟ้าปีศาจที่เป็นที่รู้จักจากเทพนิยาย “เจ้าหญิงนิทรา” แต่ในเวอร์ชันนี้ เรื่องราวกลับถูกเล่าผ่านมุมมองของมาเลฟิเชนต์ (Angelina Jolie) ซึ่งเป็นนางฟ้าที่มีชีวิตที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ในช่วงเริ่มต้นของเรื่อง เราจะได้เห็นมาเลฟิเชนต์ในวัยเด็กที่มีชีวิตที่สุขสันต์ในป่าเวทย์มนตร์ เธอเป็นนางฟ้าที่มีพลังมากมายและมีความสุขอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จนกระทั่งเธอได้พบกับเจ้าชายสเตฟาน (Sharlto Copley) ที่เข้ามาในชีวิตของเธอและทำให้ความรักของเธอเกิดขึ้นอย่างรุนแรง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สเตฟานกลับหักหลังมาเลฟิเซนต์ โดยการขโมยปีกของเธอเพื่อที่จะได้รับตำแหน่งกษัตริย์ ทำให้มาเลฟิเซนต์ต้องกลายเป็นปีศาจและมุ่งมั่นที่จะทำลายทุกสิ่งที่สเตฟานรัก รวมถึงการสาปเจ้าหญิงออโรร่า (Elle Fanning) ที่เกิดจากความแค้นของเธอ
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไม่ได้เป็นเพียงแค่ความแค้นและการแก้แค้นเท่านั้น เพราะเมื่อมาเลฟิเซนต์ได้ใกล้ชิดกับออโรร่า เธอกลับพบว่าเธอมีความผูกพันที่ลึกซึ้งกับเด็กสาวคนนี้ และเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการกระทำของตัวเอง
นักแสดงในเรื่อง
- Angelina Jolie รับบท มาเลฟิเชนต์
- Elle Fanning รับบท ออโรร่า
- Sharlto Copley รับบท สเตฟาน
- Lesley Manville รับบท นางฟ้าฟลินท์
- Juno Temple รับบท นางฟ้าฟลอรี่
- Imelda Staunton รับบท นางฟ้เมอรี่
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ “มาเลฟิเซนต์” ได้คะแนน IMDB อยู่ที่ 7.0/10 และคะแนน Rotten Tomatoes อยู่ที่ 50% (เฉลี่ยจากผู้ชมและนักวิจารณ์) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ภาพยนตร์จะมีข้อดีในด้านการแสดงและการสร้างโลกแฟนตาซี แต่ก็ยังมีข้อวิจารณ์ในบางด้าน เช่น ความลึกซึ้งของเนื้อเรื่อง
สรุป
“มาเลฟิเชนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ” เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวใหม่ที่น่าติดตาม โดยมุมมองของมาเลฟิเซนต์ทำให้เราเห็นถึงความเจ็บปวดและความสับสนที่นางฟ้าต้องเผชิญ เมื่อต้องเลือกว่าจะเป็นปีศาจหรือจะกลับไปสู่ความรักและความสุขในชีวิต
การแสดงของ Angelina Jolie เป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ในตัวละครที่มีความซับซ้อนนี้ ในขณะที่ Elle Fanning ก็ทำให้เจ้าหญิงออโรร่ามีความน่ารักและน่าเอ็นดู
โดยรวมแล้ว “มาเลฟิเชนต์” เป็นภาพยนตร์ที่มีความสวยงามทั้งภาพและเสียง พร้อมทั้งสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับความรักและการให้อภัยที่สามารถทำให้ผู้ชมคิดตามได้อย่างลึกซึ้ง