Dominion Prequel to the Exorcist (2005) โดมิเนียน เปิดตำนานสาปสยอง
ตัวเล่นหลัก
เรื่องย่อ : Dominion Prequel to the Exorcist (2005) โดมิเนียน เปิดตำนานสาปสยอง
ดูหนัง Dominion Prequel to the Exorcist (2005) โดมิเนียน เปิดตำนานสาปสยอง
Dominion Prequel to the Exorcist หรือในชื่อไทยว่า โดมิเนียน เปิดตำนานสาปสยอง เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพรีเควลของภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกอย่าง The Exorcist ซึ่งออกฉายในปี 1973 โดยกำกับโดย Paul Schrader ภาพยนตร์นี้ได้สำรวจที่มาของการสาปแช่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ต้นฉบับ และการต่อสู้กับความชั่วร้ายที่ดำรงอยู่ในโลกนี้
นักแสดงในเรื่อง
ภาพยนตร์นี้มีนักแสดงที่มีฝีมือมากมาย รวมถึง:
- Stellan Skarsgård รับบทเป็น Father Merrin
- Gabriel Mann รับบทเป็น Father Francis
- Rachel True รับบทเป็น Ana
- Paul Hinckley รับบทเป็น the Demon
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
ในด้านคะแนน IMDB Dominion ได้คะแนนประมาณ 5.3/10 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าความคาดหวังของแฟน ๆ ของหนังสยองขวัญ ในขณะที่ Rotten Tomatoes ให้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 39% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์และผู้ชมเหมือนกับภาพยนตร์ต้นฉบับ
สรุปเนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องของ Dominion เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อ Father Merrin (รับบทโดย Stellan Skarsgård) กลับไปยังแอฟริกาเพื่อทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการขุดค้นโบราณสถาน เขาได้พบกับหมู่บ้านที่ถูกสาปแช่ง และเด็กสาวที่ถูกครอบงำโดยปีศาจ ในขณะที่เขาพยายามช่วยเหลือเด็กสาวและชาวบ้านที่ถูกปีศาจเข้ามาเล่นงาน เขาต้องเผชิญหน้ากับความน่าสะพรึงกลัวและความมืดมนที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์
ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับการต่อสู้กับความชั่วร้าย ยังเน้นถึงความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในโลก ในการแสดงความเชื่อมโยงระหว่างศาสนาและการต่อสู้กับความมืด ในขณะเดียวกันก็มีการสำรวจจิตใจของมนุษย์ที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความสงสัย
แม้ว่า Dominion จะมีฉากที่น่าตื่นเต้นและการแสดงที่น่าประทับใจ แต่ภาพยนตร์ก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างผสมผสานเกี่ยวกับการดำเนินเรื่องและความลึกของตัวละคร โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ The Exorcist ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ดีที่สุดตลอดกาล
โดยรวมแล้ว Dominion Prequel to the Exorcist เป็นภาพยนตร์ที่มีความน่าสนใจในแง่ของการสำรวจจิตใจมนุษย์และการต่อสู้กับความชั่วร้าย แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับความสำเร็จของภาพยนตร์ต้นฉบับได้ แต่ก็ยังถือเป็นการเดินทางที่น่าติดตามในโลกของ The Exorcist อย่างแน่นอน